Translations are evolving and should be taken as indicative only! For a guide to the tones and the spelling system used to write this variety of Isaan (Khon Kaen), see the "tone guide" on the overview page.

Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling

IsaanPronunciationTonesThaiEnglish/Notes#occ
ยี้สิบ yi:-sip HF-M ยี่สิบ twenty 9/8

Link to overview page
Link to dictionary

Basic vocabulary — page 14 — Series A, pictures 11-14: clock, hour, minute


11 นี้คือนาลิกา เวลาห้าโมงตง
12 เวลาห้าโมงยี้สิบนาที*
13 เวลาห้าโมงเคิ่ง
14 เวลาห้าโมงสี่สิบห้านาที

*should be เวลาห้าโมงสิบห้านาที

Basic vocabulary — Page 32 — Series B, pictures 16-17: car, bus, to drive


16
นี้คืออี่หยัง เขากำลังเฮ็ดหญัง อันนี้กะคือลด กะมีคนคนหนึ่ง เป็นพุซายเนาะ กำลังขับลด
แล้วเขาขับไปใส จักคือกัน อันนี้กะบ่ฮู้ว่าเขาขับไปใส เขาอาดสิไปไกเติบ หลือว่าใก้กะได้ เขากะเลยขับลด เพาะว่าเขาญ่าง เขาอาดสิแบบว่าญ่างไปบ่ได้ เขากะเลยต้องขับลดไปเนาะ
แล้วขับลดเนี้ย ต้องขับจักคน ขับสองคนได้บ่คันเดียวเนี้ย บ่ ลดพิกอั่บ หลือว่าลดเก็ง ลดอี่หยัง กะส้างมันมีหม้องขับหม้องเดียว สามาดขับได้คนเดียวเนาะ บ่แม่นว่าสิขับได้สองคน มันมีพวงมาลัยหลือว่าหม้องขับหม้องเดียว เขากะเลยต้องขับคนเดียว ขับสองคนบ่ได้เนาะ

17
พุซายคนนี้เขากำลังเฮ็ดหญัง กะพุซายคนนี้เขากำลังขับลด แต่ว่าเป็นลดบั่ด
อาดสิเป็นลดโดยสานหลือว่าลดบั่ด ขนส่งพุโดยสานกะได้เนาะ
แล้วเขาสิขับไปใส จักคือกัน อันนี้กะบ่ฮู้ว่าเขาสิขับไปใส เขาอาดสิขับไปสะถานีขนส่งหลือว่าไปหม้องจอด ลับส่งพุโดยสานกะได้ อันนี้เฮากะบ่ฮู้เนาะ
แล้วลดบั่ดเนี้ย มันขึ้นได้หลายคนบ่ กะหลายคนเติบเนาะ หม้องนั่ง เออ หม้องนั่งในลดหนิกะปะมานยี้สิบสามสิบคนสามาดนั่งได้เนาะ หลือว่าหลายกว่านั้น บางคันกะอาดสิน้อยกว่านั้น ปะมานสิบกว่าคน หลือว่าสามสิบสี่สิบ ห้าสิบคนกะได้ แล้วแต่ลดบั่ด แล้วแต่บางคัน
ลดบั่ดหนิกะสิมีเทิงซั้นเดียว แล้วกะสองซั้น บางคันกะสิมีแค่ซั้นเดียว บางคันกะสิมีสองซั้น มีซั้นหนึ่งกับซั้นสอง หลือว่าซั้นข้างล่างกับซั้นข้างเทิงเนาะ กะมีสองซั้น ขั้นมีสองซั้นกะขี่ได้หลายคน กะนั่งได้หลายคนเนาะ

Basic vocabulary — Page 24 — Series B, pictures 05-08: shop/store, food stall, clothes, hairdresser


5
นี้คืออี่หยัง อันนี้คือล้านขายของ หลือว่าล้านสะดวกซื้อเนาะ
ในล้านนี้กะสิมีหลายสิ่งหลายอย่าง หลือว่าขายหลายสิ่งหลายอย่างอยู่ในล้านอันนี้
ญามเฮาต้องกานอี่หยัง หลือว่าอยากซื้ออี่หยังที่มันเป็นสิ่งน้อยหลือว่าซิ้นน้อยแน่เนาะ เฮากะสามาดที่ไปซื้ออยู่ในล้านอันนี้ได้
แล้วล้านขายของอันนี้เปิดตะหลอดเวลาบ่ กะแล้วแต่ล้าน บางล้านกะเปิดยี้สิบสี่ซั่วโมง หลือว่าเปิดเบิดมื้อเบิดค่ำ แต่ว่าบางล้านกะเปิดซั่วคาว หลือว่าเปิดได้ญามมื้อเว็นส่ำนั้น

6
นี้คืออี่หยัง อันนี้คือลด เป็นลดขายแนวกิน หลือว่าลดขายกับเข้าเนาะ
แล้วเป็นหญังเขาคือมาขายเทิงลด เป็นหญังเขาคือขายของอยู่เทิงลด กะจักคือกัน เขาอาดสิบ่มีเป็นล้านขาย เขากะเลยมาขายอยู่เทิงลด เพื่อที่ว่าเขาสิได้ขายแนวกินนั้นเอง
แล้วเขาขายอี่หยังแน่ กะขายเป็นแนวกิน ขายกับเข้าเนาะ อาดสิเป็นขายอาหานตามสั่งกะได้ ที่คนอยากกินอี่หยังกะไปสั่งเขา แล้วเขากะสิได้กินแนวอันนั้นเนาะ

7
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นล้านขายของ แต่ว่าเป็นล้านขายเสี้ยผ้าเนาะ กะขายหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับเสี้ยผ้า หลือว่าแนวใส่ หลือว่าแนวนุ่งห่มเนาะ
กะอย่างเซ้นมีเสี้ยผ้า มีเทิงส้งแน่ มีเสี้ยแน่ มีเกิบแน่ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับแนวใส่ของคนเนาะ

8
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นล้านคือกัน ล้านตัดผม
อันนี้เป็นล้านตัดผมเนาะ เป็นล้านบอลิกาน เพื่อที่ว่าสิให้คนมาตัดผม
แล้วในล้านนั้นแนมเข้าไปหนะสิมีอี่หยังแน่ กะมีคน มีคนสามคน คนหนึ่งกะนั่งอยู่เทิงโต่ะ เพื่อที่ว่าสิให้สั่งตัดผม มาตัดผมให้เจ้าของ คนยืนอยู่หั้นกะเป็นซ่างตัดผม ยืนอยู่หั้นกะเพื่อว่าสิตัดผมให้ลูกค้าเนาะ แล้วกะอีกคนหนึ่งนั่งอยู่เคาเต้อ อาดสิเป็นพะนักงานเก็บเงิน หลือว่าพะนักงานคิดเงินนั้นเอง

Basic vocabulary — Page 28 — Series B, pictures 18-20: warm/hot, just right, cold, degree


18
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เบิ่งแล้วกะสิเป็นหน้าฮ้อน หลือว่าลึดูฮ้อนเนาะ
อาดสิเป็นลึดูแล้งลึดูฮ้อนเนาะ เพาะว่าเบิ่งองสามาแล้วกะสูงเติบ ตั้งสี่สิบองสา
เบิ่งลักสะนะ เบิ่งซงแล้วฮ้อนคัก ฮ้อนคักอี่หลี
สำหลับอยู่พากอี่สานกะสิฮ้อนเติบเนาะ สี่สิบองสาหนิกะสิเฮ็ดให้ผิวไหม้ได้จักหน่อยพุ้นแหล้ว ขั้นตากแดดหลายเนาะ
แล้วหน้าฮ้อนหนิกะสิอยู่ปะมานเดียนมีนาเมสาไปเนาะ กะสิไปเลี้ยยๆ แล้วแต่มันสิฮ้อน ฮอดใส หน้าฮ้อนหลือว่าหน้าแล้ง กะสิอยู่ซ้วงปะมานนี้เนาะขึ้นไป หลือว่าจาก เลิ้มจากเดียนนี้ขึ้นไปเนาะ

19
อันนี้เป็นจั่งใด อากาดเป็นจั่งใด อันนี้กะสิเป็น อาดสิอากาดบ่ฮ้อนหลาย บ่หนาวหลาย
ปะมานจักองสาหละหนิ ปะมานยี้สิบห้าองสาเนาะ กะบ่ถือว่าฮ้อนหลายหนาวหลาย อากาดกะสิพอดี
แต่ว่าสำหลับคนอี่สานหลือว่าคนไทยแล้วกะ ขั้นยี้บห้าองสากะสิหนาวน้อยเย็นน้อยเนาะ บ่ฮ้อนหลาย อากาดกำลังเย็น

20
อันนี้อากาดเป็นจั่งใด ตอนนี้อากาดกะซงหนาวหลาย
สำหลับคนไทยหลือว่าคนอี่สานเนาะ อากาดแบบนี้หนาวคัก เพาะว่าสิบองสานี้คือหนาวโพดโพ หนาวคัก หนาวแน่ หนาวอี่หลี
ทุกคนต้องห่มผ้า หลือว่าใส่เสี้ยแขนญาวหลายโต ซ้อนกันหลายโตเนาะ
ขั้นเป็นหน้าหนาวในพากอี่สาน กานที่ทุกคนสิได้เฮ็ดกะคือ ตั้งไฟ ตั้งไฟ หลือว่าจุดไฟ หลือว่าก่อกองไฟ แล้วกะมานั่งล่วมกัน หลือว่าอาดสินั่งอยู่พุเดียวกะได้
แล้วกะไปนั่งฝิงไฟ หลือว่านั่งข้างกองไฟ เพื่อที่ว่าสิให้มันเกิดความฮ้อนในโต บ่ให้มันหนาวคัก บ่ให้มันหนาวหลาย
แล้วบางคนกะสิใส่เสี้ยแขนญาวหลายโต หลือว่าสามสี่โต ห้าโต แล้วแต่คนสิใส่เนาะ เพาะว่ามันหนาวหลายคัก
ต้องเฮ็ดให้โตเจ้าของอบอุ่น หลือว่าบ่ให้มันเย็น บ่ให้มันหนาวหลายเนาะ

Basic vocabulary — Page 25 — Series B, pictures 01-04: fire, paper, campfire, house, to extinguish


1
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะดาด กะดาดมันกำลังถืกไฟไหม้
เป็นหญังไฟคือไหม้กะดาด จักคือกัน จักว่าไฟเป็นหญังมันคือไหม้กะดาด จักว่าไฟมันมาแต่ใส คือได้มาไหม้กะดาดแผ่นนี้
แล้วไฟนี้มันไหม้โดนบ่ กะหน้าสิบ่โดน กะอาดสิไหม้บ่โดนปานใด
เพาะว่ากะดาดมันแผ่นน้อยหนึ่ง ไฟมันไหม้แป่บเดียว กะดาดแผ่นนี้กะสิเบิดแล้ว ขั้นกะดาดเบิดแล้ว ไฟมันกะสิดับลง ไฟมันกะสิเซาไหม้ หลือว่าเซาติด

2
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นกองไฟ หลือว่ากองฟืน ตอนนี้ไฟ[มัน]กำลังไหม้กองฟืนนี้อยู่
ฟืนนี้คืออี่หยัง ฟืนหนิกะเป็นท่อนไม้นั้นหละ เป็นกกไม้ เป็นต้นไม้ เอาต้นไม้ต้นน้อยใหญ่เอามาฮาน หลือว่ามาฟันๆๆ ให้มันซิ้นน้อยหลือว่าให้มันท่อนน้อยกะสิกายเป็นฟืนหลือว่าต้นฟืน
ตอนนี้อยู่กองไฟมันมีต้นฟืนหลายต้นบ่ หลือว่ามันมีหลายท่อนบ่ กะหลายท่อนอยู่ เป็นสิบยี้สิบท่อนพุ้นแหล้ว วางกองกันอยู่ วางท้อนกันอยู่ หลายท่อนหลายต้นคัก แล้วไฟมันกะกำลังไหม้อยู่ กำลังไหม้ต้นฟืนนั้นหละ กำลังไหม้กองฟืนนั้นหละ

3
ตอนนี้เกิดอี่หยังขึ้น ตอนนี้ไฟกำลังไหม้บ้าน ไฟกำลังไหม้เฮียน ตอนนี้ไฟกำลังไหม้เฮียนอยู่
ไฟไหม้เฮียนพุใด จักหละเด้อบัดหนิ จักว่าไฟไหม้เฮียนพุใด ฮู้แต่ว่าตอนนี้ไฟมันกำลังไหม้บ้านไหม้เฮียนคนอยู่ ไหม้บักแฮงหนึ่ง ลุก[...]ขึ้นพุ้นหนะ จักว่าไฟมาแต่ใส
มันดีบ่ขั้นไฟไหม้บ้านหนิ กะบ่เลว กะบ่ดีปานใดเลว ขั้นพุใดไฟไหม้บ้านกะซวยเติบพุ้นแหล้ว ของอยู่ในบ้านกะเสียหายเบิด กะพังเบิด กะเสียเบิด
ซู่คนบ่คิดว่ามันดีดอก ขั้นไฟไหม้บ้านหนิ มีแต่ความเสียหาย มีแต่ความหายยะนะ
แล้วไฟนี้มันไหม้โดนไป่ กะจักคือกัน จักว่าไหม้โดนหลือบ่โดน ฮู้แต่ว่ามันกำลังไหม้เฮียนหลังนี้อยู่ กะอาดสิไหม้แต่โดนนั้นหละพุ้นหนะ ไหม้เบิดบ้านเบิดเฮียนเอาโลด

4
เกิดอี่หยังขึ้นตอนนี้ ตอนนี้กะไฟไหม้บ้านอยู่ จักว่าไฟไหม้บ้านพุใด ลุกบักแฮงหนึ่ง ลุกบักคักพุ้นหนะ ไหม้คักอี่หลี
แล้วมีคนมาซ่อยดับไฟบ่ กะมีอยู่พุ้นหนะ แนมเห็นลดคันหนึ่ง มีลดคันหนึ่ง กะอาดสิเป็นลดดับเพิงกะได้ เขาอาดสิมาซ่อยเหลียในกานดับเพิงหลือว่าดับไฟไหม้หม้องนี้กะได้

Basic vocabulary — page 19 — Series B, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year


11
นี้คืออี่หยัง นี้คือปะติทิน อันนี้เป็นปะติทิน บอกมื้อ บอกวัน บอกเวลา หลือบอกเดียนบอกปีนั้นหละ
แต่ว่าในปะติทินนี้มีบอกสามมื้อหนึ่ง มีบอกวันที่สิบ แล้วกะบอกวันที่สิบเอ็ด แล้วกะบอกวันที่สิบสอง มีบอกสามมื้อ เฮาเห็นสามมื้อนั้นหละ

12
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้กะเป็นปะติทิน
เป็นปะติทินบอกมื้อ ตอนนี้เฮาเห็นปะติทินบอกเจ็ดมื้อหนึ่ง บอกบ่หลาย เห็นแค่เจ็ดมื้อ
มีวันที่สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม แล้วกะสิบสี่ สิบห้า สิบหก แล้วกะสิบเจ็ด
มีเจ็ดมื้อหนึ่ง เอิ้นง่ายว่ามีอาทิดหนึ่ง อาทิดหนึ่งมีเจ็ดมื้อ
ในอาทิดหนึ่งกะสิมีเจ็ดมื้อ กะสิมีวันจัน วันอังคาน วันพุด วันพะลึหัด วันสุก วันเสา แล้วกะวันอาทิด
กะมีเจ็ดมื้อ ลวมกันกะเป็นอาทิดหนึ่ง หลือเจ็ดมื้อนั้นหละ

13
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้ปะติทินบอกเดียน อันนี้กะเป็นปะติทิน ปะติทินบอกเดียน
อันนี้มีเดียนหนึ่ง แล้วแต่เดียน อันนี้บ่ฮู้ว่าเป็นเดียนอี่หยัง แต่ว่าในเดียนนี้มีสามสิบเอ็ดมื้อ
บางเดียนกะมีสามสิบมื้อ บางเดียนกะมียี้บเก้ามื้อ แล้วแต่ เดียนกุมพาพันกะสิมียี้บเก้ามื้อ
ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย คม กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย ย๊น กะสิมีสามสิบมื้อ
แต่ว่าในเดียนนี้ที่เขาบอก[อยู่]ในลูบพาบนี้ กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ เดียนนี้กะอาดสิลงท้ายด้วย คม

14
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทิน เป็นปะติทินคือเก่านั้นหละ แต่ว่าปะติทินอันนี้เป็นปะติทินบอกปี บอกปี
ปีหนึ่งกะสิมีสิบสองเดียน อันนี้เป็นบอกปี ปีสองพันห้าล้อยห้าสิบเก้า
หลือบอกคอสอ ขั้นเป็นคอสอของปะเทดฝะลั่งกะสิสองพันสิบหก
ในสิบสองเดียน หลือในปีหนึ่ง กะสิมีสิบสองเดียน แต่ละเดียนกะสิมี หนึ่ง เดียนมกกะลาคม สอง กุมพาพัน สาม เดียนมีนาคม สี่ เดียนเมสาย๊น ห้า เดียนพึสะพาคม หก เดียนมิถุนาย๊น เจ็ด เดียนกะละกะดาคม แปด เดียนสิงหาคม เก้า เดียนกันญาย๊น สิบ เดียนตุลาคม สิบเอ็ด เดียนพึสะจิกาย๊น สิบสอง เดียนทันวาคม
อันนี้กะสิเป็นสิบสองเดียนในหนึ่งปี แต่ละปีกะสิมีสิบสองเดียนนี้หละ
แล้วในปีหนึ่งสิมีจักมื้อ ในปีหนึ่งกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ หลือสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
ขั้นเดียนกุมพา หลือขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้บแปดมื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
แต่ว่าขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้สิบเก้ามื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ

Basic vocabulary — Page 32 — Series B, pictures 01-03: market, trader, to sell, fruit, pork


1
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นตะหลาด เป็นตะหลาดนัด เป็นตะหลาดน้อยอาดสิเป็นตะหลาดบ่ใหญ่หลาย
แล้วในตะหลาดมีอี่หยังแน่ ในตะหลาดกะมีหลายอย่าง ตะหลาดมันกะสิเป็นหม้องลวมกัน หม้อง หม้องขายของ หลือว่าหม้องซื้อของ พุใดอยากมีลายได้ หลือว่าอยาก มีอี่หยังที่สิขาย กะไปขายอยู่ในตะหลาดนั้น
แต่ว่าขั้นมีคนบางคนที่อยากได้ ต้องกานอี่หยัง หลือว่าอยากได้อี่หยัง อยากได้ อยากซื้ออันนั้น ซื้อแนวกิน หลือว่าซื้อของต่างๆ กะสิไปตะหลาดนี้เพื่อที่ว่าสิไปซื้อของ ซื้อของที่เจ้าของต้องกาน หลือว่าซื้อของที่เจ้าของอยากได้
ขั้นคนอยากมีลายได้ หลือว่าอยากมีเงินกะไปขายของอยู่ตะหลาดนี้ เพื่อที่ว่าสิเอาของที่เจ้าของมีนั้นไปขายให้กับคนอื่นที่เขาบ่มีเนาะ
แล้วสีแดงเขียวหลือว่าเหลียงนั้นเป็นอี่หยัง อันนั้นกะสิเป็น อยู่ข้างล่างนั้นกะสิเป็นฮ้าน ฮ้านวางของที่เขาสิขาย แต่ว่าขั้นเป็นเทิงนั้นกะสิเป็นหลังคาเนาะ มุงไว้เพื่อที่ว่า ไว้ถ้ากันแดด หลือว่ากันฝน ญามฝนตกกะบ่ให้ของที่เฮาขายถืกน้ำ หลือว่าถืกแดดเนาะ

2
พุหญิงคนนี้ เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุหญิงคนหนึ่งเนาะ เป็นพุหญิงคนนี้หละ เขากำลังขายหมากไม้อยู่ หมากไม้หลือว่าขายผนละไม้
แล้วเขาขายผนละไม้ [มันมี]อี่หยังแน่ กะมีหลายอย่างเนาะ กะมีก้วยพ้อม ที่เฮาแนมเห็นกะมีก้วยพ้อม มีแอ็ปเปิ้นพ้อม แล้วกะมีลำไย แล้วกะมีอันอื่นอีกหลายอย่างเนาะ แล้วเขากำลังขายอยู่
เขาขายอยู่กับพุใด เขาขายอยู่พุเดียวของเขานั้นหละ
แล้วเขาสิขายผนละไม้หลือว่าหมากไม้นี้ให้พุใด เขากะสิขายคนที่ต้องกานสิกิน หลือว่าอยากกินผนละไม้ หลือว่าอยากกินหมากไม้นี้ กะสิขายให้กับคนนั้น พุใดบ่อยากกิน หลือว่าบ่อยากซื้อ เขากะบ่ได้ขายให้เนาะ

3
พุซายคนนี้เขากำลังเฮ็ดหญัง พุซายคนนี้เขากำลังขายหมูเนาะ เอิ้นง่ายว่าเป็นพ่อค้าขายหมูเนาะ ขั้นเป็นพุหญิงกะเอิ้นว่าแม่ค้าขายหมู
หมูนี้มันเป็นอาหานหลือว่าเป็นแนวกินหลือว่าเป็นอี่หยัง หมูนี้มันกะเป็นแนวกินหนิหละ เป็น เป็นเนี้ยหมูเนาะ กะขาย อาดสิมีเนี้ยหมู ตับหมู หัวใจหมู หูหมู กะมีหลายอย่างที่เขากำลังขายอยู่ หลือว่าหัวหมู ขาหมู กะมีเบิดซู่อย่างเนาะ เขากะขายให้กับคนที่อยากได้ หลือว่า เอา อยากได้หมูเนาะ ไปเฮ็ดแนวกิน หลือว่าไปเฮ็ดเป็นกับเข้า
แล้วหมูหนิมันแพงบ่ เนี้ยหมูหนิกะบ่แพงปานใด โลหนึ่งกะล้อยกว่าบาท ปะมานล้อยยี้สิบ ล้อยสามสิบ ล้อยสี่สิบ แล้วแต่ลาคา แล้วกะสิมีอย่างอื่นที่ลาคาแตกต่างกันไปเนาะ แล้วแต่หม้อง แล้วแต่ตะหลาดที่เขาสิขายเนาะ

Stories — Childhood memory: jumping off a tree branch into a pile of straw, branch breaks

มีมื้อหนึ่งเนาะ แต่โดนนั้นหละ แต่โดนเติบ แต่หลายปีแล้วหละ ตั้งแต่พุข้าเป็นเด็กน้อยพุ้นหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย อายุพุ้นหละมาลาวๆ หอั้น สิบปี สิบเอ็ดปีพุ้นหละเนาะ จักปีเกาะ สิบปี สิบเอ็ดปีพุ้นหละ เป็นสิบปีคืนหลังพุ้นหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย เป็นเด็กน้อยเด็กเอ่ยพุ้นหละ พากันเหล้นกันเนาะ ตามปะสาเด็กน้อยหละ โอ๊ย เด็กน้อยอยู่บ้านกะหลายกะด้อกะเดี้ย หมู่กันหนิหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อยเนาะ กะหมู่หลายเนาะ สะหมัยแต่กี้เด็กน้อยในหมู่บ้านหนิ หลายเติบเด่ะเด็กน้อยหนิ เป็นซาวพุ้นหละ ซาวกะคือยี้สิบพุ้นหละ เป็นยี้สิบสามสิบคนพุ้นหละ เด็กน้อยในหมู่บ้านนั้น หลายคัก

พากันเหล้นมื้อนั้น พากันซวนกันไปเหล้น ไปเหล้นอี่หยังบุ ไปเหล้นอี่หยัง บ่เหล้น พากันได้ปีนกกไม้ ไปปีนหอั้น ไปเหล้นหญ้มหอั้น กกไม้ ต้นอี่หยังเกาะ เขาเอิ้นว่าหอั้น ต้นผักกะเสดติ ต้นผักกะเสดเนาะ ไปพากันไปปีนเหล้น โอ๊ยตาอยากหัวหลาย คิดพ้อแล้วกะเดย คิดพอแล้วกะอยากหัวเนาะ ไปพากันไปปีนเหล้น สี่ห้าคนพุ้นแหล้ว มื้อนั้นหอั้น ปีนขึ้นไปต้นนั้น ผักกะเสดกะต้นน้อยเนาะ ต้น[...] ลำบ่ใหญ่ปานใด

พากันขึ้นสี่ห้าคน ขึ้นแล้วกะหญ้ม [...] เหล้นพุ้นแหล้ว ขึ้นเหล้นเพาะว่าหอั้น อยู่ข้างกกหอั้น ผัก ผักอี่เสดหนะ ต้นผักอี่เสด แล้วมันสิมีหอั้น กองเฟียงเนาะ กองเฟียงกองบักใหญ่หนึ่ง เด็กน้อยกะแล่นเหล้น บางคนกะเหล้นอยู่อ้อมกองเฟียงนั้นหละ แล่นเหล้น แล่นซ้าย แล่นขวา โดดซ้าย โดดขวา โดดอยู่เทิงกองเฟียงนั้นหละ ม่วนหลาย ม่วนคัก

ซุมขี้มึนบัดหนิ ซุมขี้มึนกะไปปีนหอั้นกกผักอี่เสด จักปีนจั่งใด หญ้มซ้าย หญ้มขวา บางคนกะโดดใส่กองเฟียง บางคนกะโดดลงข้างล่าง โดดซ้าย โดดขวา ปีนขึ้นเทิงโดด ปีนขึ้นเทิงโดดเนาะ โดนเติบ บัดนี้พอฮอดหอั้น โดนเติบ บัดนี้หอั้น ต้นไม้มันกะสิหักตั๊วะบัดหนิ ต้นไม้ ผักอี่เสด ต้นที่ ที่มันขึ้นนั้นหละ สี่ห้าคนนั้นหละ มึนคักมึนแน่แต่กี้หนะ หักลงมาบัดหนิ ยืนอยู่เทิงนั้นสี่ห้าคนพุ้นหนะ ง่าผักอี่เสดหักลงมา ตกเอ้ม! ลงมา ตก เจ็บวะสั้น แล้วพากันให้ก้ากๆ ไปหาพ่อหาแม่บัดหนิ

กองเฟียงกะบ่ได้เหล้นซ้ำ ต้นไม้นั้นกะหักซ้ำ บ่มีพุใดได้ขึ้นอีกบัดหนิ พากันให้แข่งกัน ไปหาพ่อแม่บัดหนิ ถืกตีซ้ำ พ่อแม่กะตีซ้ำว่ามึนหลาย ไปเฮ็ดหญังบ่เฮ็ด ไปปีนกกไม้ ตกลงมาให้ก้ากๆ ได้เป็นแผเป็นเอ่ย เจ็บโตซ้ำ เทิงถืกพ่อแม่ตีอีก บัดนี้กะบ่ได้ไปขึ้นอีกดอก บ่มีกกไม้ กกไม้กะได้หักแล้ว บ่ได้ขึ้นอีกดอกบัดหนิ

มื้อหลังมื้อใหม่กะสิหาเหล้นแนวใหม่พุ้นหละ บ่มีหม้องขึ้นแล้ว กก [...] ไม้ กกผักอี่เสดอยู่ข้างกองเฟียง หม้องที่สิโดดลงกองเฟียงหนะกะบ่มีแล้ว กะสิได้หาเหล้นแนวใหม่ต่อไปนี้เนาะ